รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 6 (ของฝาก ฝากซื้อ..ซื้อฝาก) #Taiwan

ขอข้ามไปยังเรื่องของฝาก (เพราะเห็นช่วงนี้ หลายคนไปเที่ยวไต้หวันกันเยอะ) ถ้าจะฝากพวกขนม ซูลิแนะนำ 'เค้กสับปะรด (Pineapple Cake)' ของขึ้นชื่อของประเทศไต้หวัน ประมาณว่าใครไปเที่ยวไต้หวันต้องซื้อมาฝาก เคยเห็นรีวิวหลายเจ้าอยู่ แต่ร้านที่ซูลิจะแนะนำนี้ ค้นพบความอร่อยโดยบังเอิญ

เป็นเจ้าที่ทำขายอยู่ที่ซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต (Shilin Night Market | 士林夜市) ถ้าเดินทางให้มาจาก MRT Jiantan ทางออก1 (ไม่ใช่สถานี Shilin นะ) เดินตรงทางถนน Jihe ถ้าออกจากสถานีให้ข้ามทางม้าลายทางซ้ายมือ เดินมาระยะหนึ่ง ทางเข้าตลาดจะอยู่ทางขวามือ (ตามรูปข้างล่างค่ะ) มีบันไดลงชั้นใต้ดินเป็นศูนย์อาหาร (Food Court)

ตามรูป สีฟ้าคือทางที่มายังซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต ที่เป็นป้ายแบบในรูปข้างบน

แต่จริงๆ แล้ว ซื่อหลินไนท์มาร์เก็ตกว้างมาก กินบริเวณตามรูปแผนที่ ที่ระบายสีชมพูไว้ค่ะ ^^ ปล. แผนที่นี้ เจ้าของโฮสเทลเป็นคนวงปากกาบอกเราไว้ค่ะ แต่ซูลิมาระบายสี แสดงแผนที่ให้เพื่อนๆ เข้าใจยิ่งขึ้นนะ..

แต่ถ้าร้านเค้กสับปะรดที่ว่า ไม่ต้องลงชั้นใต้ดินค่ะ เดินมากลางๆ เต้นท์ด้านหน้าตลาด จะสังเกตว่ามีแต่ร้านขายของฝาก ให้เดินมากลางๆ เต้นท์ จะเจอร้านขายถั่วตัด ร้านนี้แหละค่ะ ที่เราจะซื้อของฝากกัน

จุดสังเกตคือ พนักงานหนุ่มจะใส่เสื้อสีแดง กำลังสับถั่วตัดกันขะมักเขม้น (ตามภาพ)

เห็นที่กล่อง (ซื้อ 10 ถุง เค้าจะแพ็คใส่กล่องให้เรา) เขียนว่า Peanut Candy คิดว่าน่าจะเป็นชื่อยี่ห้อเค้านะ

ที่ร้านนี้ ขายขนมประเภทถั่วตัด และก็มีเค้กสับปะรดขายด้วยค่ะ

ถ้าประเภทถั่วตัด แนะนำ อันที่ทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เคี้ยวมันมากเลยค่ะ กินเพลินๆ แป๊บเดียวหมดถุง ถุงละ 200 NTD ค่ะ ถั่วประเภทอื่นก็ราคาเดียวกันนะ

ส่วนเค้กสับปะรด อร่อยกว่าที่คิดเลยค่ะ หวานอ่อนๆ กำลังดี ชิ้นขนาดพอดีคำ อร่อยจนอยากกินอีก ที่จริงซื้อมาฝากเพื่อนๆ เยอะมาก แต่พอกินเองแล้วติดใจ เผลอกินไปเองหลายถุงเลย 555+

ถ้าถามว่า ไปไต้หวัน เค้กสับปะรดร้านไหนอร่อย เค้กสับปะรดยี่ห้อไหนอร่อย แนะนำร้าน Peanut Candy ขายอยู่ที่แผงในซื่อหลินไนท์มาร์เก็ตนี้แหละค่ะ

หน้าตาถุงย่อยของเค้กสับปะรดเป็นแบบนี้ค่ะ (ตามภาพ)

ทั้งถั่ว ทั้งเค้กสับปะรด มีหลายแพ็คเกจให้เลือกค่ะ ราคาและจำนวนชิ้นก็ต่างกันด้วย
คืออร่อยทั้งคู่ค่ะ ถ้าเป็นเค้กสับปะรด 1 ถุง 20 ชิ้น 100 NTD  แต่ถ้าซื้อเป็นกล่องประมาณอับข้าว มี 40 กว่าชิ้น แต่จะไม่มีแพ็คถุงย่อยๆ แบบในภาพข้างบนนะคะ

ปล. มีแต่คนชมว่าเค้กสับปะรดที่ซื้อมาฝากอร่อย เอาเป็นว่าใครไปไต้หวัน แล้วมีโอกาสแวะซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต ก็ลองซื้อมาเป็นของฝากนะคะ ฝากเพื่อนก็ดี ฝากตัวเองก็ได้ ^^

ตอนต่อไป จะมาแชร์เรื่องของฝากประเภทอื่นๆ นะคะ รอแป๊บบบ..
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 5 (ตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์ม วีซ่าไต้หวัน ออนไลน์) #Taiwan

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

แบบฟอร์มการขอวีซ่าไต้หวัน ออนไลน์ (สำหรับนักท่องเที่ยว)

อ้างอิงจากประสบการณ์ ที่เคยกรอกข้อมูลเองนะคะ ^^

    

1.เข้าไปที่ https://visawebapp.boca.gov.tw

    

เลือก General Visa Applications

จากนั้นจะเข้ามาสู่หน้าเว็บแบบนี้

จากนี้จะอธิบายตามหมายเลขในภาพนะคะ

1. เลือก THAILAND  จากนั้นมันจะขึ้นช่องให้กรอก เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนของเรา พอกรอกช่องนี้ มันจะ Auto ไปขึ้นช่องที่ 6 เลยนะคะ

2. จากนั้นให้เลือก Asia >> Taipei Economic..in Thailand
คลิกเลือกที่ช่อง Visitor Visa
คลิกเลือกที่ช่อง Single (ต้องการไปกลับครั้งเดียว ค่าธรรมเนียม 1,500 บาท) / ช่อง Multiple (หากต้องการไปกลับหลายครั้ง ในเวลาไม่ค่อยห่างกัน..แบบนี้จะคุ้มกว่าค่ะ แต่ค่าธรรมเนียมก็สูงกว่าเช่นกัน)

**ถ้าช่องที่ต้องกรอกตัวหนังสือ ให้กรอกภาษาอังกฤษ ตอนนั้นกรอกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ค่ะ**
3. นามสกุล
4. ชื่อจริง (แบบไม่มีคำนำหน้า)
5. ถ้าเป็นคนไทยแต่กำเนิด ไม่เคยเปลี่ยนสัญชาติ ก็ตอบ "None"
6. เลขประจำตัวประชาชน ที่ Auto มาตั้งแต่กรอกในข้อที่ 1.
7. เพศชาย(M) หญิง(F)
8. วันเกิดเรา (ค.ศ. | เดือน | วัน)
9. สถานที่เกิด ตามหนังสือเดินทาง (Passport)
    - (จังหวัด) เช่น CHON BURI
    - (ประเทศ) เช่น THAILAND
10. ชื่อ-นามสกุล บิดา
      ชื่อ-นามสกุล มารดา
11. วันเกิดบิดา (ค.ศ. | เดือน | วัน)
      วันเกิดมารดา (ค.ศ. | เดือน | วัน)
12. สถานภาพ (โสด / แต่งงานแล้ว / ..)
13. อาชีพ (ของซูลิตอบ Other|อื่นๆ  เพราะหาอาชีพพนักงานบริษัทไม่เจอ 555+)
14. ชื่อบริษัท / ชื่อโรงเรียนที่ศึกษาอยู่ (สอดคล้องกับข้อ 13.)
15. ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ ที่เราไปพักในไต้หวัน (เช่น โรงแรม, โฮสเทล)
16. ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ ในประเทศไทย..ของเรา
17. ที่อยู่ และ เบอร์โทรศัพท์ ปัจจุบัน..ของเรา
18. อีเมล์ (จะใส่หรือไม่ก็ได้)
19. Next ไปยังหน้าที่ 2/4 (มีให้กรอกทั้งหมด 4 หน้า)

20. ประเภทหนังสือเดินทาง (Passport) ถ้าเป็นหนังสือเดินทางทั่วไปแบบเราๆ ก็เลือก Regular

21. เลขที่หนังสือเดินทาง (Passport No.)

22. วันที่ทำหนังสือเดินทาง (ข้อมูลอยู่ในหน้าแรกของ Passport)

23. วันหมดอายุของหนังสือเดินทาง (ข้อมูลอยู่ในหน้าแรกของ Passport)

24. สถานที่ทำหนังสือเดินทาง (เช่น BANGKOK)

25. จุดประสงค์ในการเดินทางไปไต้หวัน ถ้าไปเที่ยวให้ตอบ "Tourism"

26. ช่องนี้เค้าถามว่า เราเคยทำวีซ่าไต้หวันมาก่อนหรือไม่ Yes | No ไปไต้หวันครั้งแรกตอบ "No"

27. วันที่จะเดินทางไปถึงไต้หวัน (วันไป)

28. วันที่จะเดินทางออกจากประเทศไต้หวัน (วันกลับ)

29. ข้อมูลติดต่อของคนที่อยู่ไต้หวัน ที่เราจะไปพักด้วย (ญาติ / เพื่อน / บริษัท / โรงเรียน) **แต่กรณีที่เราไปเที่ยวเท่านั้น พักที่โรงแรม(ไม่ใช่บ้านญาติ) ให้ตอบ " - " ทุกช่องในส่วนนี้

30. ถ้าเราเป็นคนไทย ตอบ "No"

31. กด Next ไปยังหน้าต่อไป (3/4)

หน้า 3/4

หน้านี้เป็นข้อมูลทางอาชญากรรม ผิดกฎหมายต่างๆ ถ้าเราเป็นคนดี ไม่ทำผิดกฎหมาย ก็ตอบ "No" ทุกช่องในหน้านี้... ง่ายๆ เลยค่ะ

จากนั้นกด "Next"

หน้าสุดท้าย..ก่อนกรอก หน้าตาเป็นอย่างภาพข้างบนค่ะ

ส่วนภาพข้างล่างข้อความนี้ เป็นหน้าตาเว็บเวลากรอกข้อมูลแล้วนะคะ  

32. วันที่เรากรอกข้อมูลขอวีซ่าไต้หวันในเว็บนี้ค่ะ

33. เค้าถามว่าเรากรอกข้อมูลในเว็บนี้ โดยผู้อื่นหรือไม่ ถ้ากรอกเอง ตอบ "No"

34. เค้าถามว่าเราจะไปยื่นขอวีซ่า ที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป (ตึกเอ็มไพร์ สาทร) ผ่านเอเย่นหรือไม่ ถ้าจะไปยื่นเอกสารเอง ตอบ "No"

35. ถ้ามั่นใจข้อมูลที่เรากรอกแล้ว กด "Submit"

พอมาถึงหน้าเว็บหน้าตาแบบนี้ แสดงว่าเรากรอกข้อมูลในแบบฟอร์มวีซ่าไต้หวันเรียบร้อย

36. ที่คาดสีแดงไว้ คือ ชื่อ-นามสกุลของเรา

**ที่ "ขีดเส้นใต้" สีเขียวสะท้อนแสง คือ แบบฟอร์มที่เรากรอกออนไลน์นี้ มีอายุค่ะ อย่างตอนนั้นซูลิกรอกวันที่ 1 พ.ย. 2557  แบบฟอร์มนี้จะต้องยื่นที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ก่อนวันที่ 

1 ธ.ค. 2557 มิเช่นนั้น ต้องเข้ามากรอกใหม่อีกรอบนะ

37. คือ ให้เรากด Print เอกสารแบบฟอร์มที่เสร็จสมบูรณ์ออกมา หน้าตาตามภาพด้านล่าง มี 2 หน้า

38. คือบริเวณที่เราจะติดรูป 2 คูณ 2 นิ้ว ลงไปค่ะ แต่มันจะไม่พอดีทีเดียว ต้องเล็มออกเล็กน้อย

ในหน้าที่ 2  ส่วนที่คาดสีแดงไว้ (Applicant's Signature) คือ 

ให้เราเซ็นชื่อตัวเอง เซ็นให้เหมือนในหนังสือเดินทางนะคะ ^^

เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์มวีซ่าไต้หวันออนไลน์แล้วนะคะ ที่เหลือคือเตรียมเอกสารให้พร้อมในการขอวีซ่า ที่ต้องไปยื่นที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ตึกเอ็มไพร์ สาทร (รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกดูบทความตอนที่แล้ว)

http://youtu.be/Q7KWwEmpkNA

http://youtu.be/seHEu9QuPXQ

http://youtu.be/ucl5BiETxEU

รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 4 #Taiwan

ถึงแม้ปัจจุบันจะเป็นยุค 3G-4G  แต่คนยุคใหม่อย่างซูลิ ก็ยังหลงใหลความคลาสสิค อย่างการส่งไปรษณีย์ เขียนด้วยลายมือ บรรจงติดแสตมป์ แล้วหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ .. บรรยายซะ 55  คือเรื่องของเรื่อง จะมาเล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่ไปเที่ยวอาลีซัน(阿里山) ตอนขากลับ ไปรอรถบัส(ปลายทางคือ HSR เพื่อกลับไทเป) ซูลิต้องรอรถบัสในร้าน7-11 แล้วตาก็เหลือบไปเห็นคนก้มเขียนอะไรกันอยู่ ถึงบางอ้อว่า พวกเขาเขียนโปสการ์ดกันอยู่ คือที่7-11 Alishan มีที่ส่งโปสการ์ดครบวงจรมากอะ  ขายโปสการ์ด แสตมป์ มีตราประทับที่ระลึก มีกล่องไปรษณีย์พร้อมส่ง ทีเดียวจบ ..คือดีอะ  ซูลิผู้ตั้งใจว่า เวลาไปเที่ยวที่ไหนจะต้องส่งโปสการ์ดกลับมาบ้าน(เป็นที่ระลึก เพราะมันจะมีทั้งภาพสถานที่นั้นๆ มีตราประทับไปรษณีย์ประเทศเค้า ... มันเป็นสิ่งบันทึกความทรงจำดีดีอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ของการเดินทางข้ามจากไปรษณีย์ไต้หวัน..มายังไปรษณีย์ไทย..และคุณบุรุษไปรษณีย์ก็นำส่งถึงผู้รับ) ก็ไม่รอช้า ส่งโปสการ์ด ลายการ์ตูนรถไฟอาลีซัน ซูลิเขียนบนโปสการ์ดเป็นประโยคด้วยว่า 我來了 (ฉันมาแล้วนะ)  ประมาณนี้

เพื่อนๆ คนไหนไปถึงไต้หวัน (หรือที่ใดก็ตาม ที่ประทับใจ) ก็อย่าลืมส่งโปสการ์ดถึงตัวเอง เก็บไว้เป็นที่ระลึก..ก็คงจะดีไม่น้อย ^_^

ปล. ส่งโปสการ์ดจาก Alishan - Thailand ใช้แสตมป์ 12 บาทนะ จริงๆ ตรงข้างๆ กล่องหย่อนโปสการ์ด จะมีตารางบอกไว้ว่า ส่งปลายทางทวีปไหน ต้องใช้แสตมป์กี่บาทอยู่ หรือบอกกับพนักงาน7-11เลยก็ได้ เพราะเราต้องซื้อแสตมป์กับพนักงาน7-11อยู่แล้ว (^｡^)

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 3 (การขอวีซ่าไต้หวัน) #Taiwan

Keywords: การขอวีซ่าไต้หวัน, การยื่นขอวีซ่าไต้หวัน, หลักฐานการขอวีซ่าไต้หวัน, เอกสารขอวีซ่าไต้หวัน

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

เมื่อมีตั๋วเครื่องบิน มีใบจองที่พักแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การขอวีซ่าไต้หวัน

(ปล. แชร์ตามประสบการณ์การขอวีซ่าไต้หวัน ที่เพิ่งไปทำมาเมื่อ พ.ย.2557)

1. แบบฟอร์มการขอวีซ่าไต้หวัน ออนไลน์

    เข้าไปกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนที่         

    https://visawebapp.boca.gov.tw

    เลือก General Visa Applications

    ถ้าไปเที่ยว ให้เลือก Visitor Visa

    สุดท้าย..เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วน ก็ Print ออกมา โดยแบบฟอร์มออนไลน์จะมีอายุ(ถ้าจำไม่ผิด) ประมาณ 1 เดือน คือไม่จำเป็นต้องกรอกออนไลน์และยื่นขอจริงในวันเดียวกันค่ะ

2. รูปถ่ายสี 2คูณ2 นิ้ว ฉากหลังสีขาว 2 รูป

อาจจะดูหน้าบานไปหน่อย แต่พอนำมาติดบนแบบฟอร์มขอวีซ่าออนไลน์ที่Printมาในข้อ1. มันจะพอดีๆ อย่างมากก็ตัดเล็มๆ ออกเล็กน้อยเท่านั้น

สรุป รูปถ่าย2รูป = รูปที่1 ติดในแบบฟอร์มขอวีซ่าออนไลน์ รูปที่2 ใช้คลิปหนีบกระดาษแนบไปกับเอกสารต่างๆ ที่ใช้ขอยื่นวีซ่า

3. หนังสือเดินทาง"ตัวจริง" (Passport) ที่มีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน

4. สำเนาหนังสือเดินทาง (สำเนา Passport ด้วยนะคะ)

5. สำเนาบัตรประชาชน

6. สำเนาทะเบียนบ้าน

7. ใบรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) ฉบับจริง 

*แต่ถ้าอายุเกิน 60 ปี แบบคุณพ่อที่เกษียณแล้ว ก็ไม่ต้องใช้นะคะ แล้วก็ไปกรอกในแบบฟอร์มยื่นวีซ่าออนไลน์ว่า เกษียณแล้ว

8. หลักฐานทางการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน ที่ดูมีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในการไปเที่ยวไต้หวัน ตอนนั้นเคยโทรไปถาม เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย(คือ เค้าไม่เรียกว่าสถานฑูตไต้หวันอะค่ะ แต่เป็นอันเข้าใจกันว่า มาขอวีซ่าไต้หวันที่นี่) เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าเป็นวีซ่าท่องเที่ยว แล้วหลักฐานทางการเงิน/เงินในบัญชี มีการเคลื่อนไหว ก็ให้ถ่ายเอกสารตั้งแต่หน้าที่มีชื่อเรา(เจ้าของบัญชี) ถึงหน้ารายการปัจจุบันของสมุดบัญชีเงินฝากเล่มนั้น

**เพิ่มเติมอีกนิด พอดีว่าวันที่ซูลิไปยื่นขอวีซ่า เห็นคนกลุ่มหนึ่งมาเก้อ เพราะเขาถ่ายเอกสารสมุดเงินฝากมาแค่หน้าที่มีชื่อตัวเอง ซึ่งจริงๆ จุดประสงค์ที่เค้าให้ถ่ายเอกสาร คือ เค้าต้องการรู้ว่าเรามีเงินเพียงพอต่อการไปเที่ยวประเทศเค้ามั้ย ไม่ได้กะไปโดดร่ม ค้าแรงงานที่นั่น**

แต่ถ้าใคร บัญชีเงินฝากไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว ก็ให้ขอ statement ที่ธนาคาร ย้อนหลัง6เดือน ค่าธรรมเนียมประมาณ 200 บาท ใช้เวลาในการขอไม่เกิน 1 สัปดาห์ ปล. statement ต้องมารับที่สาขาเจ้าของบัญชีเท่านั้น เช่น ยื่นเรื่องขอ statement ที่ธนาคารสาขาอโศก (โดยต้องนำสมุดบัญชี+บัตรประชาชน+ค่าธรรมเนียมธนาคาร) แต่สาขาเจ้าของบัญชีคือสาขาบางมด ตอนมารับ statement ก็ต้องมารับที่สาขาบางมดนะคะ

9. หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน ถ้าอย่างสมัยนี้จะเป็น E-ticket

10. หลักฐานการจองที่พัก Print มาจากอีเมล์ยืนยันจากทางเว็บที่เราจอง อย่างของซูลิ จองผ่านทาง hostelworld.com

11. โปรแกรมการท่องเที่ยวไต้หวัน (ภาษาอังกฤษ) บอกประมาณว่า วันไหน ไปที่ไหนบ้าง คือ โดยส่วนตัวไม่ค่อยสันทัดภาษาปะกิต แต่ยังดีที่น้องชาย(ไปทริปนี้ด้วยกัน)ช่วยพิมพ์ให้ อิอิ

12. ค่าธรรมเนียมวีซ่าไต้หวัน แบบไป-กลับ 1 ครั้ง / 1 คน  1,500 บาทค่ะ

เมื่อเอกสารครบทุกอย่างก็ใช้คลิปหนีบให้เรียบร้อยนะคะ

พอเวลาเราไปถึงสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป (อยู่ที่ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั้น20 ย่านสาทร ถ้ามา BTS ลงสถานีช่องนนทรี) จะมีคุณลุงที่คอยกดบัตรคิวให้ จะขอตรวจเช็คเอกสารและเรียงให้เรา ใจดีจังค่ะ แต่..ถ้าเราเตรียมเอกสารครบถ้วน และเรียงไว้อย่างดีแล้ว ก็ดีนะคะ เกรงใจลุงเค้า ^^

ถ้าไม่แน่ใจเรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมไปขอวีซ่าไต้หวัน ก็โทรไปฟังระบบอัตโนมัติก็ได้นะคะ  หรือถ้าข้องใจมากๆ ก็รอติดต่อเจ้าหน้าที่ค่ะ (โทร  02-670-0200-1)

เวลาทำการ 
วันจันทร์ - วันศุกร์

09.00 - 11.30 น. (รับยื่นวีซ่า)

13.30 - 15.00 น. (รับหนังสือเดินทางคืน)

แต่รับคนละวันกันนะคะ  คือตอนนั้นที่ซูลิทำ วันอังคาร เค้านัดให้มารับPassportคืนวันพฤหัส
ตอนมาทำ+รับคืน ให้คนมาทำแทนได้ค่ะ อย่างบางคนอาจให้พวกบริษัททัวร์ทำให้ ..

ตอนต่อไป จะมาแชร์วิธีกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าไต้หวันออนไลน์

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 2 #Taiwan

เมื่อตั้งใจแล้วว่าจะไปไต้หวัน ซูลิก็ไม่รอช้า ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน พอเงินพร้อมก็เข้าไปที่เว็บจองตั๋วเครื่องบิน ณ ตอนนั้นที่ซูลิศึกษาดู มีไม่กี่สายการบินที่บินตรง  และราคาไม่ค่อยต่างกัน อยู่ราวๆ 14,000-16,000 บาท (แต่ล่าสุดเห็นจะมีสายการบินน้องใหม่เปิดตัว ราคาค่าตั๋วถูกกว่ามากนัก)  ซูลิจองตั๋วของ การบินไทย | รักคุณเท่าฟ้า (www.thaiairways.com)  จองแบบไปกลับราคา 14,065 บาท (จองช่วงตุลาคม2557) ...

เมื่อมีตั๋วเครื่องบินแล้ว ก็ต้องหาที่พัก โจทย์ตอนนั้นของซูลิคือ หาห้องพัก1ห้อง สำหรับผู้ใหญ่ 5 คน (ป๊า ม้า น้องสองคน+ซูลิ) ซึ่งก็ลองหาในเว็บ agoda แต่ส่วนใหญ่ จะพักได้เต็มที่ก็ ผู้ใหญ่ 4 คน เตียงเสริมบางที่เพิ่มไม่ได้ บางที่เป็นเตียงเสริมสำหรับเด็ก สุดท้ายก็คิดได้ว่า พักเป็น hostel มั้ย ซูลิก็เลยเข้าไปที่เว็บ www.hostelworld.com  สุดท้ายก็ไปได้ hostel ตรงข้าม Shilin Night Market (ซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต) ตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในไทเป (ห้องพักขนาดไม่ใหญ่มาก อารมณ์แบบหอพักสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่แคบนะ กำลังอบอุ่นดี มีห้องน้ำในตัว ไดร์เป่าผม ตู้เย็น สะดวกมาก แถมข้ามถนนเล็กๆ ก็เจอ7-11 เจ้าของห้องอัธยาศัยดีมากค่ะ) อยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวอด แถมอยู่ไม่ไกล MRT สถานี Jiantan ถ้าวันไหนขี้เกียจเดินไป MRT ก็รอนั่งรถเมล์(จากฝั่งที่พัก/ตรงข้ามซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต)สาย 紅30, 紅9 และมีอีกสาย แต่จำไม่ได้ค่ะ  อย่ากังวลไปนะ เพราะป้ายรถเมล์ที่ไต้หวันบอกรายละเอียดชัดเจนมาก เช่น ปลายทางของแต่ละสาย หรือตารางเวลาเดินรถ ชัดเจนเป็นระบบระเบียบค่ะ ปล.นั่งป้ายเดียวก็ถึง MRT สถานี Jiantan แล้วนะ ... (ตอนต่อไปจะว่าด้วยเรื่อง การขอวีซ่าไต้หวัน)

ภาพ MRT สถานี Jiantan เหมือนมีสะพานแขวนอะไรสักอย่างอยู่ด้านบน สวยดีค่ะ ^^

http://www.youtube.com/playlist?list=PLuoJph8HZkINvmThEHQD86yH58t1JAIms

รอฉันก่อนนะ Taiwan ... ตอนที่ 1 #Taiwan

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนนะคะ ที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อกของซูลิ นี่คือโพสต์แรกเลย .. แรงบันดาลใจในการโพสต์คือ หลังกลับมาจากทริปปีใหม่ที่ไต้หวัน ประเทศที่ซูลิใฝ่ฝันว่าจะได้ไป หลายคนคงสงสัยกันว่า ทำไมไม่อยากไปประเทศฮิตๆ ประเทศอื่น อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น  ทำไมต้องเป็นไต้หวัน คือต้องย้อนกลับไปเมื่อปีกว่า วันนั้นซูลิอยู่บ้านคนเดียว ด้วยความที่กลัวบ้านจะเงียบ เลยเปิดทีวีไปเรื่อยเปื่อย จนประมาณตีหนึ่งกว่าๆ เกือบตีสอง ก็เปลี่ยนมาที่ช่องสาม บังเอิญเป็น..ซีรี่ส์ไต้หวัน..ก็เลยดูไปเรื่อยๆ เห็นมี Ken F4 ก็เลยดูต่อไป ว่าเรื่องมันเป็นยังไง ดูไปดูมา อุ้ย..พระเอกน่ารักดี ตัวนางเอก รวมทั้งพี่ชายนางเอกก็น่ารัก การเล่าเรื่องออกแนวตลกๆ แปลกดี คือการเล่าเรื่องของซีรี่ส์ไต้หวัน โดยส่วนตัวรู้สึกว่าต่างจากการเล่าเรื่องแบบละครไทยนะ อ้อ..ลืมบอกไปว่า ซีรี่ส์ไต้หวัน เรื่องที่พูดถึง คือเรื่อง พี่ชายสุดฮอตกับน้องสาวสุดเลิฟ（桃花小妹）นำแสดงโดย Jiro Wang, Cyndi Wang, Ken F4  พอเราดูเรื่องนี้จบ กลายเป็นว่า ติดซีรี่ส์ไต้หวันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หาเรื่องอื่นมาดูอีกเรื่อยๆ กลายเป็นติ่งนักร้องนักแสดงไต้หวันซะงั้น เราว่าคงคล้ายๆ กับคนที่ชอบดูซีรี่ส์เกาหลี ดูจนอยากไปประเทศเกาหลีจริงๆ ฉันใดก็ฉันนั้น การที่เราติดซีรี่ส์ไต้หวัน คือต้องบอกอีกว่า นักแสดงไต้หวัน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักร้องด้วย กลายเป็นว่า ชอบซีรี่ส์ ติดนักแสดง อ้าวเค้าร้องเพลงด้วย ฟังเพลง หลงใหลในเสียงร้อง และการเอ็นเตอร์เทน ทำไปทำมาคือ"อินไต้หวัน"จนเรียกว่า"ติ่งไต้หวัน"จะดีกว่า  สุดท้าย..สิ่งเหล่านี้เอง จึงเป็นแรงทั้งผลักทั้งดัน ทำให้อยากจะมีโอกาสสักครั้งหนึ่ง ได้ไปสัมผัสประเทศไต้หวันด้วยตัวเองจริงๆ.. (พบกันตอนต่อไป)

(ขอบคุณภาพจาก www.thaitv3.com)